ปัจจุบัน ตู้เย็น 2 ประตู ได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าตู้เย็นแบบประตูเดียว เพราะแบ่งช่องสำหรับแช่เย็นธรรมดาและช่องแช่แข็งจากกัน ช่วยให้ควบคุมความเย็นได้คงที่และมีพื้นที่แช่เยอะ ซึ่งตู้เย็น 2 ประตูรุ่นใหม่ ๆ ก็มีมากมายหลายแบบ วันนี้ CLICKZY รวบรวม 6 ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี 2023 ให้เก็บอาหารได้สดนาน เย็นทั่วถึง เต็มที่เพียงพอทั้งครอบครัว
ทำไมถึงควรเลือกใช้ตู้เย็น 2 ประตู หากอยู่อาศัยแบบครอบครัว
แม้ว่าตู้เย็นแบบ 1 ประตู จะมีขนาดกระทัดรัดกำลังดีสำหรับการแช่เย็นเก็บอาหารสำหรับการอยู่คนเดียวหรือ 2 คน และกินไฟน้อยกว่า แต่เพราะช่องแช่แข็งหรือช่องฟรีซ (Freezer) ที่อยู่รวมกับพื้นที่แช่เย็นธรรมดา ทำให้ทุกครั้งที่เราเปิดตู้เย็น ความเย็นภายในตู้จะสูญเสียระดับอุณหภูมิที่คงที่เพราะมีอากาศและความชื่นเข้าไปสะสมเพิ่มในตู้เย็นและช่องฟรีซได้ง่าย เกิดเป็นชั้นน้ำแข็งพอกพูนจนล้นตู้เย็น และจำเป็นต้องคอยละลายน้ำแข็งส่วนเกินออกเป็นประจำ
ส่วนตู้เย็น 2 ประตู นอกจากจะมีความจุสำหรับจัดเก็บอาหารได้เยอะขึ้น สำหรับครอบครัว 3 คนขึ้นไป การแยกประตูสำหรับช่องแช่เย็นธรรมดาและช่องฟรีซ จะช่วยให้ตู้เย็นคงระดับความเย็นที่เหมาะสมและคงที่ได้ดีกว่า โดยเฉพาะในช่องฟรีซที่เราไม่จำเป็นต้องเปิดใช้บ่อย จึงเกิดน้ำแข็งพอกได้ช้า โดยเฉพาะในตู้เย็นรุ่นใหม่ที่ใช้การทำความเย็นแบบ Inverter ก็จะช่วยป้องกันการพอกของน้ำแข็งได้อีกด้วย
เลือกขนาดตู้เย็น 2 ประตูยังไง ให้คุ้มค่า ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินการใช้งาน
ตู้เย็นขนาดต่าง ๆ จะมีค่าระบุเนื้อที่ความจุมาตรฐานทั่วไปว่า “คิว” มาจาก Cubic Foot/Feet หรือลูกบาศก์ฟุต หรือในบางกรณีบางผู้ผลิตอาจมีการระบุด้วยหน่วยลิตร ทำให้ผู้ซื้อผู้ใช้งานอาจสับสนเล็กน้อย แล้วขนาดตู้เย็นสำหรับครัวเรือนที่พอดีควรมีขนาดเท่าไหร่ดี จึงจพอดีต่อจำนวนคนในครอบครัว
- ขนาด 7 – 13 คิว (200 – 380 ลิตร) เหมาะกับครอบครัวจำนวน 1 – 2 คน
- ขนาด 12 – 18 คิว (350 – 530 ลิตร) เหมาะกับครอบครัวจำนวน 3 – 4 คน
- ขนาดไม่น้อยกว่า 15 คิว (440 ลิตร) เหมาะกับครอบครัวจำนวน 5 คน ขึ้นไป
ตู้เย็น 2 ประตู มีกี่แบบ อะไรบ้าง?
ตู้เย็น 2 ประตู แบบช่องแช่แข็งที่ด้านบน
จะเป็นตู้เย็น 2 ประตูแบบมาตรฐานทั่วไปและได้รับความนิยมสูง โดยประตูส่วนบนของตู้เย็นจะเป็นช่องแช่แข็งหรือช่องฟรีซ ที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าช่องฟรีซในตู้เย็น 1 ประตู ขณะที่ประตูล่างจะเป็นช่องแช่เย็นสำหรับอาหารอื่น ๆ ซึ่งขนาดจะเท่า ๆ กันกับตู้เย็น 1 ประตูทั่วไป แถมเหมือนมีพื้นที่เพิ่มเพราะแยกช่องฟรีซไว้ต่างหากแล้วอีกด้วย
ตู้เย็น 2 ประตู แบบช่องแช่แข็งที่ด้านล่าง
จะเป็นตู้เย็น 2 ประตูคล้ายกับแบบแรก เพียงแต่สลับตำแหน่งบน-ล่างกันระหว่างตู้แช่แข็งและตู้แช่ธรรมดา จุดเด่นคือเพราะในทุก ๆ วันเรามักจะเปิดใช้งานช่องแช่เย็นธรรมดาบ่อยกว่าช่องฟรีซ การที่ช่องแช่เย็นอยู่ด้านล่างจะทำให้เราต้องก้มตัวบ่อย หากสลับมาไว้ด้านบนจะช่วยให้เราเปิดใช้งานตู้เย็นได้แบบไม่ต้องก้มหลัง เหมาะกับผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่สุด
ตู้เย็น 2 ประตู แบบประตูซ้ายขวา (Multi-Door / Side by Side)
มักจะเป็นตู้เย็น 2 ประตู ขนาดใหญ่ 15 คิวขึ้นไป โดยแบ่งเป็นประตูบานเปิดด้านซ้ายและขวา เป็นช่องแช่เย็นธรรมดาด้านหนึ่ง และช่องฟรีซอีกด้านหนึ่ง เพิ่มความจุการแช่อาหารได้มากขึ้น ในบางรุ่นอาจมีประตูช่องแช่เย็นหลายส่วน ช่วยแยกสัดส่วนการใช้งานที่ชัดเจนและเต็มที่มากขึ้นอีกด้วย
เคล็ด(ไม่)ลับในการปรับอุณหภูมิตู้เย็นให้แช่ของกินได้นาน
โดยทั่วไปตัวเลือกการปรับความเย็นในตู้เย็นจะแบ่งเป็นระดับ 1 – 4 หรือถึง 5 แล้วแต่บางรุ่น ทำให้เราอาจสับสนว่าเบอร์ไหนถึงจะเย็นกำลังดี โดยอาจหาเครื่องวัดอุณหภูมิ Thermometer แช่ไว้ โดยช่องแช่เย็นธรรมดาควรปรับอุณหภูมิตู้เย็นอยู่ที่ 2 – 5 องศาเซลเซียส ส่วนช่องฟรีซควรจะอยู่ที่ -18 ถึง -20 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้การทำความเย็นของตู้เย็นก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งในการติดตั้ง และการใช้งานของเราอีกด้วย หากห้องครัวหรือจุดที่ตั้งตู้เย็นในห้องมีแดดส่องถึงและสะสมความร้อนระหว่างวัน หรือมีการเปิดใช้ตู้เย็นบ่อย ๆ หรือแช่อาหารจนแน่นตู้ ก็จะทำให้ตู้เย็นรักษาระดับความเย็นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนั่นเอง รวมถึงหากมีของแช่น้อยหรือในช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นอยู่แล้ว ก็อาจปรับอุณหภูมิตู้เย็นลงเพื่อไม่ต้องใช้ไฟฟ้าจนเกินจำแป็นได้อีกด้วย
รวม 6 ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี 2023 แช่อาหารจุใจ เย็นไวใม่กินไฟ
1. SAMSUNG ตู้เย็น 2 ประตู รุ่น RT20HAR1DSA 7.3Q / 208 L
ตู้เย็น 2 ประตูจาก SAMSUNG รุ่น RT20HAR1DSA ขนาด 7.3Q มากับระบบทำความเย็นแบบ Digital Inverter Technology ลดเสียงรบกวน และทำความเย็นได้อย่างทั่วถึงด้วย Multi-Flow โดดเด่นด้วยช่องลิ้นชัก Moist Fresh Zone ช่วยรักษาความสดใหม่ให้ยาวนานขึ้น และยังมีเสียงเตือนอัตโนมัติหากเปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้หรือไม่สนิทประมาณ 2 นาที เพื่อช่วยป้องกันการสูญเสียความเย็น
คุณสมบัติ:
- ความจุ:3 Q / 208 ลิตร
- น้ำหนักสินค้า: 43 กก.
- ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก): 5 x 144.5 x 63.7 ซม.
- ระบบทำความเย็น: Inverter Compressor
- ค่าไฟฟ้า (ประมาณต่อปี): N/A
บริการจัดส่ง: ส่งฟรีเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล *ไม่รวมบริการติดตั้ง/รื้อถอน
ราคา: 9,528 บาท จาก 13,611 บาท สั่งซื้อได้เลยที่ CLICKZY เพียงคลิกซิ
2. SAMSUNG ตู้เย็น 2 ประตู สีเงิน รุ่น RT25FGRADSA/ST 9.1Q/258.5 L
ตู้เย็น 2 ประตูจาก SAMSUNG รุ่น RT25FGRADSA/ST ขนาด 9.1Q ที่ใหญ่ขึ้น และมากับระบบทำความเย็นแบบ Digital Inverter Technology มีช่อง Cool Pack ช่วยให้อาหารยังคงเย็นแข็งอยู่ได้นานหากเกิดกรณีไฟฟ้าดับ และยังมีแผ่นกรองกลิ่น Activated Carbon ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นจากอาหารที่กลิ่นแรงอีกด้วย
คุณสมบัติ:
- ความจุ:1 Q / 258.5 ลิตร
- น้ำหนักสินค้า: 5 กก.
- ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก): 5 x 163.5 x 54.5 ซม.
- ระบบทำความเย็น: Inverter Compressor
- ค่าไฟฟ้า (ประมาณต่อปี): 1,544 บาท
รับประกันสินค้า: Compressor 10 ปี / ตัวเครื่อง 1 ปี
บริการจัดส่ง: ส่งฟรีเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล *ไม่รวมบริการติดตั้ง/รื้อถอน
ราคา: 12,140 บาท จาก 22,073 บาท สั่งซื้อได้เลยที่ CLICKZY เพียงคลิกซิ
3. SAMSUNG ตู้เย็น Side by Side รุ่น RH64A53F12C/ST 22.1Q/628 L
ตู้เย็น 2 ประตูแบบ ไซด์บายไซด์ จาก SAMSUNG รุ่น RH64A53F12C/ST ขนาด 22.1Q มาพร้อมผนังตุ่เย็นที่บางลงด้วยเทคโนโลยี SpaceMax ให้จุของได้เยอะขึ้น และยังโดดเด่นด้วยเครื่องทำน้ำแข็งในตัว และช่องกดน้ำดื่มเพิ่มความสะดวกโดยไม่ต้องเปิด/ปิดประตูตู้เย็นบ่อย ๆ
คุณสมบัติ:
- ความจุ:1 Q / 628 ลิตร
- น้ำหนักสินค้า: 126 กก.
- ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก): 2 x 178.0 x 71.6 ซม.
- ระบบทำความเย็น: Mono Cooling
- ค่าไฟฟ้า (ประมาณต่อปี): 2,851 บาท
บริการจัดส่ง: ส่งฟรีเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล *ไม่รวมบริการติดตั้ง/รื้อถอน
ราคา: 59,931 บาท จาก 85,616 บาท สั่งซื้อได้เลยที่ CLICKZY เพียงคลิกซิ
4. BEKO ตู้เย็นไซด์บายไซด์ รุ่น GNO580E50GBTH 19.9Q / 564 L
ตู้เย็น 2 ประตูแบบ ไซด์บายไซด์ จาก BEKO รุ่น GNO580E50GBTH ขนาด 19.9Q มาพร้อมระบบทำความเย็นแบบ No Frost ไม่สะสมชั้นน้ำแข็ง และด้วยชั้นวางกระจกนิรภัยที่มีความทนทานสูง รองรับการวางของหนักได้ หากต้องถามว่าตู้เย็น BEKO ดีไหม คงต้องบอกว่าแช่ของได้อย่างสบายใจไม่ต้องกังวลว่าชั้นวางจะหักเลย
คุณสมบัติ:
- ความจุ:9 Q / 564 ลิตร
- น้ำหนักสินค้า: 95 กก.
- ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก): 0 x 183 x 70.6 ซม.
- ระบบทำความเย็น: No Frost
- ค่าไฟฟ้า (ประมาณต่อปี): 2,440 บาท
รับประกันสินค้า: 2 ปี, Compressor 12 ปี
บริการจัดส่ง: ส่งฟรีเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล *ไม่รวมบริการติดตั้ง/รื้อถอน
ราคา: 55,740 บาท จาก 79,629 บาท สั่งซื้อได้เลยที่ CLICKZY เพียงคลิกซิ
5. TOSHIBA ตู้เย็นไซด์บายไซด์ รุ่น GR-RS780WI-PGT(22) 20.6Q / 586.3 L
ตู้เย็น 2 ประตูจาก TOSHIBA รุ่น GR-RS780WI-PGT(22) ขนาด 20.6Q พิเศษด้วยระบบการควบคุมผ่านแอพพลิเคชัน TSmartLife สั่งงานได้แบบไร้สาย พร้อมด้วยโหมดเร่งทำความเย็นแบบทันใจ และระบบกำจัดกลิ่นฉุนของอาหารแบบ Pure Bio และยังมีช่องเก็บควบคุมความชื่น Max-Humid Fresh ให้ช่วยคงความสดของอาหารได้นานขึ้น
คุณสมบัติ:
- ความจุ: 20.6 Q / 586.3 ลิตร
- น้ำหนักสินค้า: 101 กก.
- ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก): 0 x 179.3 x 69.8 ซม.
- ระบบทำความเย็น: Dual Fan Cooling
- ค่าไฟฟ้า (ประมาณต่อปี): 2,233 บาท
บริการจัดส่ง: ส่งฟรีเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล *ไม่รวมบริการติดตั้ง/รื้อถอน
ราคา: 50,152 บาท จาก 71,646 บาท สั่งซื้อได้เลยที่ CLICKZY เพียงคลิกซิ
6. MITSUBISHI ตู้เย็น 4 ประตู รุ่น MR-LA70ES-GBK 22.4Q / 635 L
ตู้เย็น 4 ประตูจาก MITSUBISHI รุ่น MR-LA70ES-GBK ขนาดจุใจถึง 22.4Q มากับระบบ Neuro Inverter ให้สามารถทำความเย็นอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน โดดเด่นด้วยช่องแช่ผักผลไม้แบบแสงสีส้ม Vitamin Factory เพื่อคงคุณภาพของอาหารไว้ พร้อมมีระบบกำจัดกลิ่นแบบ titanium Filter อีกด้วย
คุณสมบัติ:
- ความจุ:4 Q / 635 ลิตร
- น้ำหนักสินค้า: 124 กก.
- ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก): 95 x 8 x 76.4 ซม.
- ระบบทำความเย็น: Multi Air Flow
- ค่าไฟฟ้า (ประมาณต่อปี): 2,214 บาท
รับประกันสินค้า: 2 ปี, Compressor 10 ปี
บริการจัดส่ง: ส่งฟรีเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล *ไม่รวมบริการติดตั้ง/รื้อถอน
ราคา: 69,710 บาท จาก 99,586 บาท สั่งซื้อได้เลยที่ CLICKZY เพียงคลิกซิ
One More Tip:
แม้ในบางบ้านหรือบางครอบครัวที่ใช้งานตู้เย็นอย่างเป็นระเบียบและไม่ค่อยทำเลอะ แต่ก็ควรที่จะทำความสะอาดภายในตู้เย็นอย่างน้อยปีละ 1 – 2 ครั้ง เพื่อความสะอาดและสุขอนามัยในการจัดเก็บอาหารที่เราต้องทานในทุก ๆ วัน แต่ก็ไม่ควรใช้สารเคมีรุนแรงอีกด้วย อาจใช้เพียงผ้าชุบน้ำสะอาดหรือล้างด้วยน้ำยาล้างจานที่ไม่เป็นพิษกับร่างกาย แล้วเช็ดให้แห้งก็เพียงพอแล้ว