การมีเก้าอี้ออฟฟิศที่ดีและมีคุณภาพจะช่วยให้เรานั่งทำงานได้อย่างสบายตลอดทั้งวัน เพราะหากเก้าอี้ที่ใช้นั่งทำงานมีขนาดไม่พอดีกับสรีระร่างกายของเรา ก็อาจทำให้ปวดหลังและมีปัญหาสุขภาพตามมาได้ โดยเฉพาะอาการ “ออฟฟิศซินโดรม” หรืออาการปวดหลังรื้อรังที่คนไทยรู้จักกันดีให้กลุ่มของคนวัยทำงาน เพราะการอยู่นท่านั่งนาน ๆ ต่อเนื่องกันวันละหลาย ๆ ชั่วโมง ซึ่งมีสาเหตุบางส่วนมาจากเก้าอี้ออฟฟิศที่เราใช้นั่งทำงานนี่เอง
แต่เมื่อเก้าอี้ออฟฟิศคุณภาพดีและเหมากับสรีระท่านั่งของเรามักจะมีราคาค่อนข้างแพง ทำให้หลายคนอาจเลือกใช้เก้าอี้ธรรมดาหรือเก้าอี้ออฟฟิศราคาถูกเพื่อนั่งทำงาน ซึ่งอาจเป็นการปูทางให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมได้อีก วันนี้ Clickzy เลยมีวิธีเลือกเก้าอี้ออฟฟิศที่ทั้งนั่งสบายแต่ราคาไม่แรงมาแนะนำ ถึงจะใช้เก้าอี้ธรรมดาก็สามารถนั่งทำงานได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องทนปวดหลัง
4 วิธี เลือกเก้าอี้ออฟฟิศที่ดี นั่งสบาย ลดปวดหลัง
1. เบาะนั่งปรับระดับความสูง-ต่ำได้
เพราะสัดส่วนสรีระร่างกายของแต่ละคนไม่เท่ากัน เก้าอี้ที่ระดับเบาะต่ำเกินไปจะทำให้นั่งเมื่อยแขนที่ต้องยกขึ้นพิมพ์งาน ส่วนเก้าอี้ที่เบาะสูงเกินไปจะทำให้ต้องนั่งก้ม เสี่ยงต่ออาการหลังค่อมได้ เก้าอี้ออฟฟิศที่มีฟังก์ชันให้ปรับระยะความสูงต่ำของเก้าอี้และโต๊ะทำงานที่พอดีกันได้ จะช่วยให้นั่งทำงานได้อย่างสบายมากขึ้น
2. ฟูกและวัสดุเบาะนั่งไม่แข็งเกินไป
เบาะที่นิ่มเกินไปจนยุบแบนหรือเบาะที่แข็งตึงอาจทำให้รู้สึกเมื่อยก้นได้เมื่อนั่งต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน เก้าอี้ที่เบาะนั่งทำจากวัสดุอย่างเมมโมรี่โฟมจะช่วยให้นั่งสบายมากกว่า หรือหากเป็นเก้าอี้เบาะตาข่ายหรือผ้าก็รองรับสรีระการนั่งได้ดีเช่นกัน
3. พนักพิงหลังควรเอนได้ ไม่แข็งตรง
เก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังตั้งตรงถึง 90 องศา จะทำให้ปวดหลังได้เมื่อนั่งเพียงไม่นาน เพราะฝืนกับสรีระร่างกายของคนเรา ระยะการเอนหลังที่กำลังเหมาะสมจะอยู่ที่ 100 – 110 องศา และพนักพิงหลังส่วนล่างควรโค้งนูนเล็กน้อยเพื่อรับกับหลังส่วนล่างของเราขณะที่นั่งด้วยเช่นกัน
4. ที่พักแขนก็มีความสำคัญ
เพราะหากท่านั่งที่ต้องยกศอกให้เสมอกับระดับโต๊ะเป็นเวลานานจะทำให้เมื่อยแขนได้ และต้องนั่งชิดโต๊ะเพื่อเท้าแขนกับโต๊ะได้ ซึ่งอาจทำให้ต้องมองจอคอมพิวเตอร์ในระยะที่ใกล้ขึ้น เสี่ยงต่ออาการปวดสายตาได้อีก หากเลือกเก้าอี้ออฟฟิศที่มีที่พักแขนมาให้จะช่วยให้สามารถปรับระยะการนั่งได้พอดีมากขึ้น
แนะนำเก้าอี้ออฟฟิศ นั่งสบายราคาไม่แรง ต่ำกว่า 5,000 บาท
1. เก้าอี้ออฟฟิศ TS Modern Living รุ่น CH0009
จุดเด่น: ด้วยคันโยกระบบโช้คโฮดรอริกให้สามารถปรับระดับสูงต่ำของเบาะนั่งได้ตามต้องการ มีพนักพิงหลังที่มีส่วนเว้าค้าเข้ามารองรับหลังส่วนล่างช่วยลดอาการปวดหลัง พร้อมวัสดุของเบาะเป็นตาข่ายที่ช่วยให้ระบายอากาศให้ไม่รู้สึกชื้นเหงื่อระหว่างการนั่งได้
สมาชิก Clickzy สามารถสั่งซื้อได้ในราคา 2,959 บาท จาก 4,238 บาท เพียงคลิกซิ
2. เก้าอี้ออฟฟิศ FURDINI W-169X
ภาพเก้าอี้ออฟฟิศ FURDINI W-169X จาก Homepro
จุดเด่น: มีฟังก์ชันให้สามารถปรับระดับสูงต่ำของเบาะนั่งได้ตามชอบ รวมถึงที่พักแขนก็สามารถปรับระดับได้ตามถนัด โดยส่วนของพนักพิงหลังมีแท่นรองหลังส่วนล่างให้อีกด้วย
สามารถสั่งซื้อได้ในราคา 3,990 บาท
3. เก้าอี้ออฟฟิศ IKEA รุ่น MARKUS
ภาพเก้าอี้ออฟฟิศรุ่น MARKUS จาก IKEA
จุดเด่น: ด้วยพนักพิงทรงสูงรองรับการพิงศรีษะได้ และมีส่วงโค้งเว้าเข้ามารองรับหลังส่วนล่างขณะนั่งพิง โดยมีคันโยกไว้ปรับระดับสูงต่ำของเบาะและระยะการเอนหลัง พร้อมยังมีแท่นพักแขนให้อีกด้วย
สามารถสั่งซื้อได้ในราคา ราคา 4,990 บาท
*ราคาที่แสดงในบทความอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการข่าย
ทั้งนี้ นอกจากเลือกเก้าอี้ออฟฟิศที่คุณภาพดีแล้ว การจัดท่านั่งให้เหมาะสมก็มีส่วนช่วยให้สามารถนั่งทำงานได้อย่างสบายและราบรื่นตลอดวันไม่แพ้กัน สำหรับใครที่มีเก้าอี้ออฟฟิศสำหรับนั่งทำงานที่สามารถปรับระดับและระยต่าง ๆ ได้ ก็สามารถจัดท่านั่งที่เหมาะสมตามขั้นตอนในบทความ “7 วิธีจัดโต๊ะเขียนหนังสือ แบบรักษาสุขภาพ เอาใจชาว Work From Home” ได้เลย
One More Tip:
การนั่งเก้าอี้ออฟฟิศทำงานเป็นเวลานาน ๆ ควรนั่งให้ลึกจนหลังชิดสุดกับพนักพิงให้แผ่นหลังทั้งหมดถูกรองรับอยู่ตลอดขณะกำลังนั่ง เพื่อไม่ให้กระดูกสันหลังของเราเริ่มมีอาการโก่งค่อมลงและทำให้เกิดอาการปวดหลังส่วนล่างได้ ซึ่งส่วนนี้สามารถใช้หมอนรองหลังช่วยเสริมได้เช่นกัน