ในเมื่อการซักผ้าถือเป็นกิจวัตรสำคัญเพื่อให้เรามีเสื้อผ้าที่สะอาดหอมไว้สวมใส่ในทุก ๆ สัปดาห์ แต่เมื่อเครื่องซักผ้าเป็นสินค้าชิ้นใหญ่และมีราคาสูงเหมือนลงทุนระยะยาวเพื่อการซักผ้าที่ดีและสะอาด พร้อมให้เราได้ใช้งานไปนาน ๆ โดยเฉพาะใครที่อยู่อาศัยในคอนโดพื้นที่จำกัดและอยากมีเครื่องซักผ้าไว้ใช้เองส่วนตัว ไม่ต้องลงไปใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญส่วนกลางแชร์ร่วมกับคนอื่น วันนี้ CLICKZY รวบรวม 6 เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี 2023 พร้อมเคล็ดไม่ลับในการใช้งานอย่างถูกวิธี ให้เครื่องซักผ้านานไม่พังเร็วอีกด้วย
ประเภทของเครื่องซักผ้าในปัจจุบัน
เครื่องซักผ้าฝาบน
เป็นรูปแบบดั้งเดิมของเครื่องซักผ้าที่หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยดี โดยมีบานฝาเปิดที่ด้านบนพร้อมแผงปุ่มกดควบคุมที่ด้านหน้าเพื่อเลือกโหมดการซัก
- จุดเด่นของเครื่องซักผ้าฝาบนคือใช้งานง่าย โดยเฉพาะในรุ่นใหม่ ๆ ยังสามารถเปิดฝาเพิ่มเติมผ้าบางชิ้นลงไปซักเพิ่มในขณะที่เครื่องกำลังทำงานได้อยู่โดยไม่เป็นอันตราย เพราะเครื่องจะหยุดการทำงานชั่วคราวและกลับมาซักต่อเมื่อฝาถูกปิดเข้าที่ดีแล้ว
- จุดด่อยหลัก ๆ ของเครื่องซักผ้าฝาบน คือเพราะถังปั่นที่หันขึ้นบนและการหมุนที่ต้องอาศัยกระแสของน้ำช่วยในการซักมากกว่าการขัดฟอก ทำให้อาจซักผ้าได้ไม่สะอาดหมดจดเท่าที่ควรหากเราใส่ปริมาณผ้าเยอะเกินไปในรอบซักนั้น อีกทั้งหากเครื่องมีขนาดใหญ่จะทำให้ต้องก้มลึกเพื่อเก็บผ้า อาจทำให้ผู้ใช้งานปวดหลังได้เมื่อใช้งานบ่อย ๆ
เครื่องซักผ้าฝาหน้า
เป็นรูปแบบเครื่องซักผ้าที่เริ่มพบเห็นได้บ่อยขึ้น และเริ่มเป็นที่นิยมในไทยมากขึ้น ด้วยฝาหน้าแบบบานประตูของเครื่องซักผ้าช่วยให้ใส่ผ้าเข้าออกเครื่องได้สะดวกโดยไม่ต้องก้มหลัง
- จุดเด่นของเครื่องซักผ้าฝาหน้าคือการที่ถังซักอยู่ในแนวตะแคงข้าง จะยิ่งช่วยให้ขัดซักฟอกเนื้อผ้าได้ทั่วถึงกว่าขณะซัก ช่วยให้ผ้าออกมาสะอาดมากกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน และหากเป็นรุ่นมาตรฐานขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป เราสามารถเลือกติดตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้าไว้ใต้เคาน์เตอร์สำหรับใช้งานภายในบ้านหรือคอนโดได้อย่างสะดวก
- จุดด้อยของเครื่องซักผ้าฝาหน้า คือเมื่อเครื่องเริ่มทำงาน ฝาจะล็อคไว้จนกว่าขั้นตอนการซักจะเสร็จครบรอบและไม่สามารถเปิดออกเพื่อเติมผ้าเข้าไปซักเพิ่มได้ รวมถึงระยะเวลาในการซักต่อรอบจะใช้เวลานานกว่าแบบฝาบน เช่น แบบฝาบนจะใช้เวลาซักเพียง 40 – 60 นาที ขณะที่แบบฝาหน้าใช้เวลาในการซัก 1 ชั่วโมงขึ้นไป
เครื่องซักผ้า/อบผ้าแบบ Combo หรือ 2-in-1
จะเป็นประเภทของเครื่องซักผ้าที่สามารถซักผ้าได้และอบผ้าได้ในเครื่องเดียว ซึ่งเหมาะกับผู้ที่บ้านหรือคอนโดมีพื้นที่จำกัด โดยเครื่องซักผ้าแบบ Combo จะมีทั้งแบบ
- เครื่องชิ้นเดียวกัน แยกการซักที่ฝาล่างและอบผ้าที่ฝาบน: ทำให้แยกการใช้งานแบบซักอย่างเดียวหรืออบผ้าอย่างเดียวไปพร้อม ๆ กันได้ แต่จุดด้อยคือ หากมีการชำรุดเกิดขึ้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ก็จำเป็นต้องซ้อมทั้งตัวเครื่องทั้งหมด ไม่สามารถแยกซ่อมทีละฟังก์ชันหรือทีละส่วนได้
- เครื่องซัก/อบผ้าฝาหน้าแบบ Combo 2-in-1: จะเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่อบผ้าได้ด้วย ผ่านตัวถังซักและถังอบในช่องฝาเดียวกัน มีจุดเด่นที่ขนาดเครื่องเท่ากับเครื่องซักผ้าฝาหน้าทั่วไป จึงเหมาะกับคอนโดพื้นที่จำกัดมาก ๆ แต่ข้อด้อยของเครื่องแบบ 2-in-1 คือ ใช้เวลารอบการซักที่นานมากกว่าเครื่องซักผ้าอย่างเดียวที่เป็นฝาหน้า และอบผ้าได้ไม่แห้งสนิทเท่าเครื่องอบผ้าโดยเฉพาะ รวมถึงยังรองรับน้ำหนักของผ้าในการซักและอบได้ไม่เท่ากัน เช่น เครื่องซักอบขนาด 9 / 6 kg หมายถึง สามารถซักผ้าได้ 9 กิโลกรัม แต่สามารถอบผ้าได้ที่ 6 กิโลกรัมเท่านั้น
โหมดการใช้งานเครื่องซักผ้าที่ควรรู้
เครื่องซักผ้าสำหรับใช้งานในครัวปัจจุบันจะมาพร้อมกับโหมดการซัก (Cycle) ที่หลากหลาย เพื่อให้ทุกครั้งของการซักสามารถซักผ้าอย่างสะอาดพร้อมยังถนอมเนื้อผ้าไม่ให้พัง แต่ละโหมดเหมาะกับผ้าแบบไหนและการซักระดับไหนบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย
- โหมดธรรมดาหรือโหมดผ้าฝ้าย (Cotton / Normal / Automatic): จะเหมาะกับการซักผ้าโดยทั่วไป รองรับการซักเสื้อผ้าธรรมดาในปัจจุบันที่มักใช้ฝ้ายเป็นวัสดุประกอบ และเป็นโหมดเริ่มต้นโดยอัตโนมัติของเครื่องซักผ้า โหมดนี้ยังเหมาะกับการซักผ้าผืนใหญ่อย่างผ้าปูที่นอนด้วย
- โหมดถนอมผ้า (Delicates): ใช้สำหรับผ้าบอบบาง ที่อาจเสียรูปทรงและฉีกขาดง่าย เช่น ผ้าขนแกะ ผ้าไหม ชุดกระโปรงยาว ชุดที่มีการปักเย็บลวดลาย หรือชุดชั้นในสตรี โดยเครื่องจะปรับลดรอบการปั่นให้ช้าลงเพื่อลดการเสียดสีกับตัวถังไม่ให้เนื้อผ้าเสียหาย
- โหมดผ้าสังเคราะห์ (Synthetic / Mixed Fabric): เหมาะกับผ้าใยสังเคราะห์ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ผ้าฝ้าย เช่น ชุดกีฬา ที่อาจยับหรือเสียรูปทรงจากโหมดการซักปกติได้
- โหมดซักด่วน (Quick Wash): นับเป็นโหมดการซักผ้าแบบประหยัดน้ำและเวลา เพียง 30 นาที สำหรับคนที่รีบใช้เสื้อผ้าใส่แล้วบางชิ้นที่ยังไม่ได้สกปรกมากนัก ไม่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าที่มีคราบเลอะหรือสกปรกมาก ๆ
นอกจากนี้ ในโหมดแรก (Cotton / Normal) เราสามารถปรับเลือกรอบการหมุน และความร้อนของน้ำในการซักได้ ส่วนในเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ในโหมดอื่น ๆ มักมีการตั้งค่าให้อัตโนมัติในแต่ละโหมดเหล่านี้แล้ว
วิธีใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้าที่ถูกต้อง ซักผ้าสะอาดไม่เสี่ยงชำรุดเร็ว
เครื่องซักผ้าก็เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่มีวันเสื่อมและชำรุด และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ด้วยการสะสมสิ่งสกปรกจากผ้าที่เราซักในทุก ๆ สัปดาห์ และเพื่อให้เครื่องซักผ้าสามารถซักผ้าได้อย่างสะอาดในทุก ๆ ครั้ง ไม่สะสมกลิ่นอับหรือเศษขุยผ้าติดปะปน CLICKZY มี Trick ในการดูแลและใช้งานเครื่องซักผ้ามาฝากกัน
วิธีดูแลเครื่องซักผ้าฝาบน:
- เปิดโหมดล้างถัง หรือโหมดอัตโนมัติ ให้เครื่องซักน้ำผงซักฟอกผสมน้ำส้มสายชูโดยไม่มีผ้าลงไปซัก เพื่อล้างคราบที่ติดอยู่ในถังซักด้านใน ทุก ๆ 6 – 12 เดือน
- เปิดฝาเครื่องซักผ้าทิ้งไว้ประมาณ 30 – 60 นาที หลังซักเสร็จ เพื่อระบายความชื้นออกจากถัง
- ถอดฝากรองฝุ่นที่อยู่ข้างถังซักด้านในออกมาล้างทุก ๆ ครั้ง หรือทุก ๆ เดือน
- ใช้บริการล้างอัดฉัดเครื่องซักผ้าทุก ๆ 1 – 2 ปี เพื่อทำความสะอาดคราบสกปรกทุกส่วนที่อาจมองไม่เห็น โดยเฉพาะส่วนที่อยู่ใต้ระบบถังปั่นและตามท่อต่าง ๆ ของเครื่องซักผ้า
วิธีดูแลเครื่องซักผ้าฝาหน้า และแบบ Combo 2-in-1:
- เปิดโหมดล้างถัง (Tub Clean / Drum Clean) หรือ โหมดธรรมดา (Normal) ให้เครื่องซักน้ำผงซักฟอกผสมน้ำส้มสายชูโดยไม่มีผ้าลงไปซัก เพื่อล้างคราบและดับกลิ่นอับที่สะสมติดอยู่ในถังซัก ทุก ๆ 6 – 12 เดือน
- เปิดฝาเครื่องซักผ้าทิ้งไว้ประมาณ 30 – 60 นาที หลังซักเสร็จ เพื่อระบายความชื้นออกจากถัง
- ใช้ผ้าเช็ดคราบน้ำต่าง ๆ ตามขอบยางรอบฝาให้แห้งสนิททุกครั้งหลังซัก
- ระบายน้ำออกจากช่องกรองที่ฝาด้านล่างของเครื่องทุกครั้งหลังซัก เพื่อป้องกันการสะสมความอับชื้นในถังซัก
- หากติดตั้งใช้งานในบ้านหรือในครัว ให้ใช้ภาชนะมารองน้ำที่จะระบายออกก่อน
- ใช้บริการล้างอัดฉัดเครื่องซักผ้าทุก ๆ 1 – 2 ปี เพื่อทำความสะอาดคราบสกปรกทุกส่วนที่อาจมองไม่เห็น โดยเฉพาะส่วนที่อยู่ใต้ระบบถังปั่นและตามท่อต่าง ๆ ของเครื่องซักผ้า
แนะนำ 6 เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี 2023
1. เครื่องซักผ้าฝาหน้า Samsung
ด้วยเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ดิจิทัล* ของ Samsung ที่ใช้แม่เหล็กทรงพลังในการทำงาน ช่วยให้ทุกการซักผ้าเสร็จรอบเร็วขึ้น มีเสียงดังน้อยลงและประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าแบบมอร์เตอร์ทั่ว ๆ ไปอีกด้วย
SAMSUNG เครื่องซักผ้า ฝาหน้า (8 kg) สีขาว รุ่น WW80T3040WW/ST
- ความจุ: ซัก 8 กก.
- ขนาด (ซม.): สูง 85 x กว้าง 59.5 x ลึก 46.5
- ราคา: 13,677 บาท จาก 19,538 บาท สั่งซื้อทาง CLICKZY ได้ง่าย ๆ เพียงคลิกซิ
SAMSUNG เครื่องซักผ้า/อบผ้า ฝาหน้า (9/6 kg) รุ่น WD90T604DBE/ST
- ความจุ: ซัก 9 กก. / อบ 6 กก.
- ขนาด (ซม.): สูง 85 x กว้าง 60 x ลึก 65
- ราคา: 27,800 บาท จาก 39,715 บาท สั่งซื้อทาง CLICKZY ได้ง่าย ๆ เพียงคลิกซิ
2. เครื่องซักผ้าฝาหน้า TCL
เครื่องซักผ้าและอบผ้าฝาหน้าจาก TCL มาพร้อมระบบการทำงานด้วย DD Inverter Motor เป็นมอร์เตอร์แบบต่อตรงกับถังซัก ไม่ต้องมีสายพานและรอก ช่วยให้การซักผ้าเงียบ นิ่ง และประหยัดพลังงานถึงขั้นสุด และยังมีฟังก์ชัน Air Refresh และ Heat Sterilization ใช้การพ่นลมร้อนช่วยกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ที่อาจติดอยู่กับเสื้อผ้า ให้มั่นใจว่าทุกการซักจะได้ผ้าสะอาดหอมพร้อมสวมใส่
TCL เครื่องซักผ้า/อบผ้า (10/7 Kg) Inverter รุ่น WT11EPWDG
- ความจุ: ซัก 10 กก. / อบ 7 กก.
- ขนาด (ซม.): สูง 85 x กว้าง 59.5 x ลึก 66
- ราคา: 22,617 บาท จาก 32,311 บาท สั่งซื้อทาง CLICKZY ได้ง่าย ๆ เพียงคลิกซิ
3. เครื่องซักผ้าฝาหน้า BEKO
เครื่องซักผ้าและอบผ้าฝาหน้าจาก BEKO มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน และยังสามารถซักโปรแกรมแบบด่วน Quick Wash ได้เร็วสุดในเวลาเพียง 14 นาที พร้อมสามารถเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชัน HomeWhiz ให้สามารถสั่งงานผ่านมือถือ Smartphone และเครือข่าย Wi-fi ในบ้านได้อีกด้วย
BEKO เครื่องซักผ้า /อบผ้าฝาหน้า (10.5/6 kg) รุ่น WDW106141DWMP1
- ความจุ: ซัก 10.5 กก. / อบ 6 กก.
- ขนาด (ซม.): สูง 79 x กว้าง 61 x ลึก 55
- ราคา: 39,256 บาท จาก 56,080 บาท สั่งซื้อทาง CLICKZY ได้ง่าย ๆ เพียงคลิกซิ
4. เครื่องซักผ้าฝาหน้า TOSHIBA
เครื่องซักผ้าฝาหน้าและอบผ้าจาก TOSHIBA โดดเด่นด้วยระบบ SenseDose ช่วยคำนวณปริมาณน้ำยาซักผ้าตามน้ำหนักผ้าที่จะซัก ซักสะอาดด้วยเทคโนโลยี The Great Waves คลื่นพลังน้ำหลากหลายทิศทาง ให้ผ้ากลับตัวขัดถูกันมากขึ้น พร้อมมีระบบอบผ้าแบบ Condenser หมุนเวียนความร้อนภายในให้ผ้าแห้งไวและประหยัดการใช้พลังงาน
TOSHIBA รุ่น TWD-BM135GF4T (12.5/8 kg)
- ความจุ: ซัก 12.5 กก. / อบ 8 กก.
- ขนาด (ซม.): สูง 85 x กว้าง 59.5 x ลึก 64.5
- ราคา: 32,690 บาท จาก 46,700 บาท สั่งซื้อทาง CLICKZY ได้ง่าย ๆ เพียงคลิกซิ
5. เครื่องซักผ้าฝาหน้า ELECTROLUX
เครื่องซักผ้าและแบผ้าฝาหน้าจาก Electrolux มาพร้อมเทคโนโลยีการซักแบบ SensorWash™ ช่วยตรวจจับสิ่งสกปรกและจะปรับเวลาการซักให้เหมาะกับระดับความสกปรกของผ้า เพื่อให้ทั้งซักผ้าได้อย่างสะอาดโดยไม่ทิ้งสารตกค้างจากผงซักฟอกส่วนเกิน และยังสามารถเชื่อต่อผ่าน Electrolux Life App เพิ่มความสะดวกในการสั่งงานผ่านโทรศัพท์ Smartphone ด้วย
ELECTROLUX เครื่องซักผ้า/อบผ้าฝาหน้า (11/7 kg) รุ่น EWW1141AEWA + ขาตั้ง
- ความจุ: ซัก 11 กก. / อบ 7 กก.
- ขนาด (ซม.): สูง 85 x กว้าง 60 x ลึก 65.9
- ราคา: 40,513 บาท จาก 57,876 บาท สั่งซื้อทาง CLICKZY ได้ง่าย ๆ เพียงคลิกซิ
6. เครื่องซักผ้าฝาหน้า LG
เครื่องซักผ้าจาก LG มาพร้อมระบบอัจฉริยะ AI ที่ช่วยคำนวณโปรแกรมการซักตามประเภทและน้ำหนักของปริมาณผ้า เพิ่มประสิทธิภาพให้การซักผ้าทุกครั้งออกมาสะอาดและถนอมเนื้อผ้าที่สุด พร้อมรองรับการสั่งงานผ่าน Smartphone App เมื่อเชื่อมต่อ Wi-fi มีเทคโนโลยี LG Steam ช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้ถึง 99.9% และโดดเด่นด้วยระบบมอร์เตอร์ต่อตรง Inverter Direct Drive ไม่มีสายพาน เครื่องจึงทำงานได้เงียบและทนทานมากขึ้น
LG เครื่องซักผ้า/อบผ้า ฝาหน้า (15/8kg) รุ่น F2515RTGV.AESPETH
- ความจุ: ซัก 15 กก. / อบ 8 กก.
- ขนาด (ซม.): สูง 94 x กว้าง 64.5 x ลึก 77
- ราคา: 52,946 บาท จาก 75,638 บาท สั่งซื้อทาง CLICKZY ได้ง่าย ๆ เพียงคลิกซิ
One More Tip:
ส่วนสำคัญของการถนอมเครื่องซักผ้า หากติดตั้งใช้งานไว้ภายนอกบ้านหรือที่ระเบียงคอนโด ควรมีถุงคลุมเครื่องซักผ้าเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องซักผ้าดูเก่าหรือเสื่อมสภาพเร็วจากการถูกฝนสาดและแสงแดดส่อง