ทุกคนล้วนอยากมีบ้านที่สวยงาม น่าอยู่ และมั่นคงแข็งแรง ทนทาน ให้สามารถอยู่อาศัยได้อย่างยาวนานเป็น 10 ปี การเลือกวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมสำหรับบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญให้เราสามารถมั่นใจในความทนทาน ความมั่นคงของโครงสร้าง และความสวยงามโดยรวมของบ้าน และในขณะเดียวกันก็ไม่สิ้นเปลืองจนเกินงบที่เตรียมไว้ด้วย ซึ่งในขั้นตอนการเลือกวัสดุมาสร้างบ้าน เราสามารถพิจารณาตาม 8 ข้อเหล่านี้ ก็จะช่วยให้เราสามารถเลือกวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมกับโครงการ ให้ทั้งได้บ้านที่แข็งแรง สวยงาม โดยไม่กระเป๋าฉีกอีกด้วย
รวม 8 วิธีเลือกวัสดุก่อสร้าง ที่เหมาะสมสำหรับสร้างบ้าน
1. เลือกจากงบประมาณที่จ่ายไหว
วัสดุต่าง ๆ ล้วนมีราคาต้นทุนไม่เท่ากัน แต่ในขณะเดียวกันวัสดุราคาแพงก็ไม่ใช่สิ่งรับประกันว่าเราจะได้บ้านที่ทนทานมีคุณภาพ จึงจำเป็นที่เราต้องพิจรณาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ทั้งอายุการใช้งาน ความสะดวกในการซ่อมแซมและดูแลรักษา ซึ่งวัสดุบางอย่างก็อาจใช้ทดแทนกันได้ในงบประมาณที่ถูกลง ทนทานยาวนานกว่า หรือดูแลรักษาได้ง่ายกว่า เช่น การใช้วัสดุปูพื้นลายไม้แทนการใช้ไม้จริง เป็นต้น
2. เลือกจากความสะดวกในการหาซื้อ
ในหลายกรณี การเลือกวัสดุสร้างบ้านก็ถูกกำหนดด้วยความสะดวกในการหาซื้อในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ก่อสร้างของเรา แม้ว่าในระหว่างการคัดหา รวบรวมข้อมูล และตัดสินใจแล้วว่าวัสดุบางชนิดมีคุณภาพดีกว่าและมีราคาคุ้มค่าในระยะยาวแต่หายากในบริเวณนั้น เพราะหากเลือกวัสดุที่ตรงกับความต้องการจริง ๆ จะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าและขนส่ง ทำให้งบประมาณสูงขึ้นได้อีก ดังนั้นก็อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนไปเลือกวัสดุอื่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันที่หาซื้อได้ง่ายกว่าในละแวกของโครงการแทน
3. เลือกจากความทนทานของวัสดุ
วัสดุต่างชนิดกันย่อมมีความทนทานไม่เท่ากัน วัสดุสร้างบ้านบางชนิดสามารถทนต่อรอยขีดข่วน ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสภาพอากาศ ความชื่น หรือการพฤติกรรมการใช้งานมากน้อยได้นานกว่าชนิดอื่น ๆ หากเลือกวัสดุที่มีความทนทานต่ำ ก็อาจทำให้เราต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ
4. เลือกจากความสะดวกในการดูแลรักษา
นอกจากอายุการใช้งานของวัสดุแล้ว การดูแลรักษาก็นับเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะวัสดุสร้างบ้านบางชนิดอาจต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ทำให้สิ้นเปลืองค่าดูแลรักษาได้ในระยะยาว จึงจำเป็นต้องศึกษาคุณสมบัติของวัสดุแต่ละชนิดโดยละเอียดเพื่อไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนในภายหลัง
5. เลือกจากสภาพอากาศของที่ตั้งโครงการ
ภูมิอากาศและทำเลที่ตั้งของบ้านก็นับเป็นอีกปัจจัยในการกำหนดชนิดและรูปแบบของวัสดุก่อสร้างที่จะนำมาใช้ โดยเฉพาะเมืองไทยที่มีอากาศร้อนชื้นและมีฝนตกชุก จึงควรเลือกวัสดุที่สามารถทนทานต่อภูมิอากาศในลักษณะนี้เป็นสำคัญ รวมถึงยังสามารถระบายความร้อนและไม่อมความชื่นจนเกิดความเสียหายได้ง่าย
6. เลือกจากความประหยัดพลังงานในระยะยาว
โดยเฉพาะวัสดุที่ช่วยระบายอุณหภูมิได้ดีในฤดูร้อน เพราะจะช่วยให้บ้านประหยัดพลังงานไฟฟ้าจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้ หากเป็นวัสดุที่สะสมความร้อนได้ง่ายนอกจากจะทำให้ต้องใช้พลังงานมากขึ้นและเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้บ้านหลังนั้นอยู่อาศัยไม่สบายตัวเจ้าของบ้านอีกด้วย
7. เลือกจากคำนึงถึงความยั่งยืน
ปัจจุบันเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนับเป็นอีกปัจจัยสิ่งสำคัญที่หลายคนเริ่มคำนึงเมื่อเลือกวัสดุสร้างบ้าน การเลือกวัสดุที่ยั่งยืนและสามารถรีไซเคิลได้ หรือผลิตจากทรัพยากรหมุนเวียน จะช่วยลดขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากวัสดุสร้างบ้านได้เป็นอย่างดี โดยมองหาวัสดุที่มีใบรับรอง เช่น LEED หรือ FSC เพื่อรับรองตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดการใช้ทรัพยากรใหม่จากธรรมชาติโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
8. เลือกจากคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
อีกวิธีเลือกวัสดุสร้างบ้านคือการปรึกษากับสถาปนิก ผู้รับเหมา หรือผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุก่อสร้าง เพราะพวกเขาสามารถให้คำแนะนำตามความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี ว่าวัสดุอะไรบ้างที่ควรเลือกใช้ เหมาะกับภูมิอากาศแบบไหนบ้าง ช่วยประเมินค่าใช้จ่าย ไปจนถึงวิธีการดูแลรักษาสำหรับเราในฐานะเจ้าของบ้านอีกด้วย
ที่ CLICKBIZ มีบริการผู้เชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับวัสดุสร้างบ้าน และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับบ้านมากมายจากผู้ค้าหลากหลายผ่านแพลตฟอร์มของเรา สนใจใช้บริการของ CLICKBIZ สามารถสมัครเพื่อใช้งานได้เลยเพียงคลิกซิ