คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การค้าปลีกแบบออนไลน์หรือ E-Commerce เป็นที่นิยมและแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าด้วยการเข้าถึงสินค้าผ่านทางออนไลน์และบริการจัดส่งสินค้าแบบ Delivery ที่เข้าถึงง่าย ทำให้หลายธุรกิจเลือกเพิ่มช่องทางการขายสินค้าทางแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น แต่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับ “Dark Store” หรือการมี “ร้านมืด” ไว้ในโครงข่าย E-Commerce ของตน ซึ่งอาจมีบทยาทช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจได้มากขึ้น

เพราะในขั้นตอนการโดยทั่วไปของการค้าปลีกแบบ E-Commerce ที่นอกจากทางร้านหรือแบรนด์จะรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า แล้วนำมาเตรียมการจัดส่งจากคลังสินค้าที่ร้านประจำสาขาต้นทาง หรือจากโกดังของศูนย์กระจายสินค้าประจำภูมิภาคที่จัดการโดยบผู้ให้บริการจัดส่ง ทำให้การจัดส่งสินค้ามีลำดับขั้นตอนมากมายและอาจใช้ระยะเวลาในการจัดส่งที่นานกว่าจะถึงมือลูกค้า

Dark Store คืออะไร มีบทบาทอย่างไรบ้างใน E-Commerce

หากแปลตรงตัว “Dark Store” จะหมายถึง “ร้านมืด” ซึ่งในความหมายแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือธุรกิจผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่คือร้านค้าที่ไม่ได้เปิดขายให้กับลูกค้าแบบแวะเวียนหรือเดินเข้ามาหยิบซื้อได้ แต่จะทำหน้าที่เป็นเสมือนคลังสินค้าย่อยไว้รองรับการจัดส่งตามคำสั่งซื้อจากลูกค้าจากระบบ E-Commerce ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงที่สุด

เมื่อขั้นตอนการสั่งซื้อต่าง ๆ ถูกจัดการผ่านระบบออนไลน์ไว้แล้วทั้งหมด ซึ่งข้อมูลคำสั่งซื้ออาจถูกส่งไปที่สำนักงานใหญ่ของผู้ค้า หรือที่ร้านค้าสาขาใกล้เคียงกับลูกค้า คำสั่งซื้อนั้นจะถูกส่งต่อไปยัง Dark Store ที่อยู่ใกล้กับที่อยู่จัดส่งของลูกค้ามากที่สุด ก่อนจะนัดผู้ให้บริการจัดส่งเข้ารับสินค้าที่ Dark Store และส่งต่อถึงที่อยู่ที่ลูกค้าระบุได้ทันที

ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ธุรกิจที่มี Dark Store อยู่ในโครงข่ายบริการสามารถจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าการจัดส่งจากร้านค้าต้นทางหรือผ่านศูนย์กระจายสินค้าประจำพื้นที่ ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถทำตลาดในเรื่องของการส่งเร็วทันใจเพื่อดึงดูดลูกค้าได้นั่นเอง

จุดเด่นของ Dark Store สำหรับธุรกิจออนไลน์

สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น

ข้อได้เปรียบของ Dark Store ที่ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ใหญ่ขนาดเท่าโกดังสินค้าและสามารถเลือกตั้งกระจายให้ครอบคลุมระยะจัดส่งในแต่ละพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง ช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพและระยะเวลาในการจัดส่งให้ถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น เพราะต้นทางการจัดส่งอยู่ไม่ไกลตั้งแต่แรก

ลดขั้นตอนในจัดส่งทางโลจิสติกส์

เพราะขั้นตอนการจัดส่งสินค้าผ่านผู้ให้บริการจัดส่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน ผู้ขายจำเป็นต้องนำสินค้าที่ถูกสั่งซื้อไปส่งมอบกับศูนย์รับสินค้าของผู้จัดส่ง ก่อนที่สินค้าจะต้องเดินทางไปยังศูนย์กระจายสินค้าประจำพื้นที่ แล้วจึงต่อไปยังที่อยู่ที่ลูกค้าระบุเป็นขั้นตอนสุดท้าย แต่การมี Dark Store ในระบบ เพียงแค่มีข้อมูลคำสั่งซื้อถึง Dark Store ที่ใกล้ลูกค้าที่สุด ก็สามารถจัดส่งสินค้าถึงที่หมายได้เลย

เพิ่มโอกาสในการขายให้ผู้ค้ารายย่อย

โดยสามารถเข้าร่วมทุนกับผู้ค้ารายใหญ่กว่าในการเป็นตัวแทน Dark Store เพื่อรับกระจายสินค้า พร้อมรับส่วนแบ่งจากการขายและจัดส่งในทุกคำสั่งซื้อ เพิ่มช่องทางรายได้ให้ผู้ค้าท้องถิ่น

อุปสรรคในการทำ Dark Store มีอะไรบ้าง

ใช้ต้นทุนในการลงทุนครั้งแรกค่อนข้างสูง

การตั้ง Dark Store ให้ครอบคลุมการจัดส่งอย่างทั่วถึง จำเป็นต้องใช้ต้นทุนที่สูงมากในการจัดหาสถานที่ รวมถึงการหาคู่ค้าท้องถิ่นที่จะสนใจเข้าร่วมเป็นตัวแทน Dark Store กับธุรกิจก็ต้องมีข้อเสนอที่ให้ความคุ้มค้ากับผู้ค้าท้องถิ่นด้วย

ทักษะของพนักงานหรือร้านค้าตัวแทนยังมีจำกัด

หากการทำ Dark Store ของธุรกิจ E-Commerce อาศัยการใช้ร้านค้าท้องถิ่นร่วมเป็นตัวแทน จำเป็นต้องคำนึงว่าผู้ค้าแต่ละรายอาจมีทักษะและความเข้าใจในการเทคโนโลยีมากน้อยไม่เท่ากัน และอาจต้องลงทุนจัดอบรวมเพิ่มเพื่อให้การขายสินค้าผ่าน Dark Store มีประสิทธิภาพได้ตามที่คาดหวัง

จำเป็นต้องอัปเดตข้อมูลคลังสินค้าเป็นประจำ

นอกจากการอบรมทักษะเพิ่มให้ร้านค้าท้องถิ่นแล้ว ผู้ค้ารายย่อยที่เป็นตัวแทน Dark Store ก็จำเป็นต้องคอยอัปเดตคลังสินค้าของตันเองอยู่เป็นประจำ เพื่อให้ข้อมูลสินค้าทั้งระบบของ E-Commerce แสดงให้ลูกค้าทางออนไลน์ทราบเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

One More Tips:

ความพร้อมและความเข้าใจทางด้านเทคโนโลยี ถือเป็นทักษะที่จะเป็นสำหรับการทำ E-Commerce ไม่ว่าจะเป็นตัวเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ หรือรายย่อย รวมไปถึงเจ้าของร้านที่สนใจเป็นตัวแทน Dark Store เพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางการค้าให้กับคู่แข่งที่มีความพร้อมมากกว่า หากไม่สามารถตอบสนองการซื้อจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ